
พาไปทัวร์ร้านป้ายเหลือง Matsumoto Kiyoshi สาขาแรกในไทย พร้อม Top 5 Items เด็ดจากญี่ปุ่น!
สาวๆเตรียมกรี๊ดกันได้เลยย ร้านป้ายเหลืองชื่อดัง ‘Matsumoto Kiyoshi’ ที่เราต้องไปช้อปไกลกันถึงญี่ปุ่นตอนนี้มาเปิดที่เมืองไทยสาขาแรกแล้วนะคะ และวันนี้นีน่าจะพาสาวๆไปทัวร์ร้าน ดูว่ามีอะไรให้เราได้ช้อปกันบ้าง ของจะเยอะจะยิ่งใหญ่เท่าที่ญี่ปุ่นได้มั๊ย และสุดท้ายนีน่าจะมาพรีวิว Top 5 ไอเท็มที่นีน่าชอบที่สุดและอยากให้สาวๆได้ลองมากที่สุดจากร้านนี้กัน ไปดูกันเลย!!!
ร้าน Matsumoto Kiyoshi หรือที่คนไทยติดเรียกเล่นๆว่า “ร้านป้ายเหลือง” ถือเป็นร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับ 1 ของญี่ปุ่นค่ะ ชื่อร้านเต็มๆ อ่านว่า มัทสึโมโตะ คิโยชิ แต่เพราะว่าชื่อยาวไป คนญี่ปุ่นเลยเรียกว่าสั้นๆว่า Matsukiyo (มัทสึคิโยะ) สาวไทยถ้าไม่อยากตกเทรนด์ แนะนำให้ลองเรียกชื่อสั้นนี้ดูแทนชื่อร้านป้ายเหลืองนะจ้ะ จะได้ติดปากเวลาไปญี่ปุ่น คุยกับคนญี่ปุ่นรู้เรื่องแน่นอน ^^
ตอนนี้ร้านที่มาเปิดสาขาแรกในไทยตั้งอยู่ที่ชั้น G ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว นีน่าได้รับเกียรติเข้าไปดูร้านก่อนเปิดบริการจริงๆ อยากบอกว่าการตกแต่งทุกอย่างใกล้เคียงที่ญี่ปุ่นจริงๆค่ะ บรรยากาศในร้านเป็นกันเอง สไตล์ญี่ปุ่น สังเกตได้จากการเขียนป้ายเป็น pop-up ที่เขียนด้วยลายมือจริงๆ ส่วนแนวการจัดร้านจะเป็นแบบ Consumer Centric คือถือให้ความสำคัญและนึกถึงลูกค้าก่อนเป็นอันดับแรก ดังนั้นการจัด shelf ต่างๆ เช่นการจัดหมวดหมู่สินค้า จะไม่แบ่งแยกเป็นแบรนด์ แต่จะแบ่งเป็นหมวดหมู่ของสินค้าแทนเพื่อให้ลูกค้าหาของได้สะดวกค่ะ หรือการจัดวางสินค้าขายดี จะจัดไว้ตรงจุดที่คนสามารถเห็นได้ง่ายและจะเปลี่ยนสินค้าขายดีไปเรื่อยๆบ่อยๆตามสถิติจริงในแต่ละเดือน ไม่ได้ใช้ระบบว่าแบรนด์ไหนจ่ายเงินมากจึงจะให้จุดวางที่ดีที่สุดค่ะ
ภายในร้านมีสินค้าให้เลือกหลากหลายแบบไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ ชนิดที่ว่าหลงเข้าไปทั้งวัน ค่อยๆเลือกของทีละอย่างโดยที่ลืมเวลาไปได้เลย >< เอาเป็นว่าเดี๋ยวนีน่าจะพาไปเดินดูของในร้าน และแบรนด์เด่นๆกันเลยนะคะ
CHIFURE (ชิฟูเระ)
LOVE & PEACE
แบรนด์ต่อมาถือว่าเป็นแบรนด์ exclusive ครั้งแรกในไทยเช่นเดียวค่ะ แบรนด์นี้มีชื่อน่ารักๆว่า Love & Peace นีน่าชอบตรง Packaging น่ารักแตะตามากมายตามสไตล์ญี่ปุ่น แบรนด์นี้มีผลิตภัณฑ์กว่า 11 ชิ้นให้สาวๆเลือกสรรตามความต้องการที่หลากหลายของผิว มีทั้งออยล์บำรุงผิวกาย สครับขัดตัว ครีมทามือ โบดี้โลชั่น สเปรย์สำหรับตัวและผม และอื่นๆอีกมากค่ะ ทุกผลิตภัณฑ์จะเป็นกลิ่นเดียวกันทั้งหมด นีน่าแอบได้ดมกลิ่นแล้ว จะบอกว่ากลิ่นน่ารักมากๆ ออกแนวฟรุตตี้หวานๆหอมๆ ส่วนเรื่องราคา แบรนด์ Love and Peace ถือเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในราคามิตรภาพค่ะ
ARGELAN
แบรนด์ Argelan (อาร์เจลาน) เน้นผลิตภัณฑ์ประเภทดูแลเส้นผมค่ะ จุดเด่นของแบรนด์นี้คือผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมาจากออร์แกนิค ประกอบด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติกว่า 50 ชนิด ทั้งสารสกัดจากพืช สารสกัดจากใต้ทะเล และออยล์ต่างๆ เช่น ลาเวนเดอร์ออยล์ ผสมกับกลิ่นหอมของซีดาร์วู้ด และกุหลาบ ทำให้ผู้ใช้ได้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายสุดๆไปเลยค่ะ ผลิตภัณฑ์มีสูตรต่างๆให้เราได้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแชมพูเนื้อเจลที่จะช่วยทำความสะอาดดูแลหนังศีษะและล้างสิ่งปรกที่อุดตันรูขุมขน สูตรที่ปราศจากซิลิโคน ช่วยเคลือบและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในเส้นผม เหมาะกับผิวแพ้ง่าย และสารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย หรือจะเป็นสูตรใหม่ล่าสุดกลิ่นแมคคาเดเมีย (ขวดสีน้ำตาลอมแดง) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในเก็บกักความชุ่มชื้นของเส้นผมได้ดีค่ะ
ที่นีน่าชอบมากๆคือผลิตภัณฑ์ของ Argelan จะมาในหลากหลายไซส์ ไม่ว่าจะเป็นขวดใหญ่ ซึ่งสามารถใช้ได้นานหลายเดือน แบบถุง refill ชนิดเติม ที่จ่ายราคาถูกลงแต่ได้ปริมาณผลิตภัณฑ์เท่าเดิม และเค้าก็ยังมีขายแบบซองเล็กๆราคาไม่สูงจนเกินไป เผื่อให้เราได้ทดลองใช้ก่อนจะมาซื้อขวดใหญ่ในครั้งหน้าด้วยนะจ้ะ ตรง shelf ในร้านน่ารักมากๆเลย มีกล่องเล็กๆเจาะรูให้เราได้ลองดมกลิ่นผลิตภัณฑ์ก่อนเลือกซื้อด้วยค่ะ ^^
MOTE MASCARA
Mote Mascara เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่กำลังมาแรงและขายดีมากๆที่ญี่ปุ่น เพราะว่าเพิ่งได้รับรางวัล Cosme อันโด่งดังมาค่ะ นีน่าเห็นวางขายเยอะมากๆจริงๆที่ญี่ปุ่นเที่ยวล่าสุดที่นีน่าไป จำได้ขึ้นใจเพราะแพคเกจจิ้งดึงดูดมากมาย ตอนแรกนีน่าแอบคิดว่าเหมือนห่อขนมหรือช็อกโกแลตด้วยแหละ >< กลับมาเจอที่ Matsukiyo ในเมืองไทยถึงกับกรี๊ด เพราะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ขายแบบ exclusive ครั้งแรกในไทย แถมจัดมาแบบครบเซ็ททุกแบบทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นสีชมพู ช่วยเพิ่มความยาว สูตรเนื้อฟิล์ม สามารถล้างออกได้ด้วยอุ่น รุ่นกันน้ำ ไม่แพนด้า หรือรุ่นที่มีสารบำรุงขนตาที่เคลมว่า 84% ของผู้ใช้ ใช้แล้วขนตาแข็งแรงขึ้น ยาวขึ้น และยังมีมาสคาร่าเบส (สีน้ำเงิน) ที่ปัดครั้งแรกจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม หลังจากแห้งแล้วจะกลายเป็นสีดำ และทำให้ขนตายาวขึ้นก่อนปัดขนตาจริงค่ะ
JEWEL JOUER
แบรนด์ที่แพคเกจจิ้งดูหวาน น่ารักเหมือนอยู่ในสวนดอกไม้เลยค่ะ Jewel Jouer มีผลิตภัณฑ์ตั้งแต่น้ำหอม, Body Mist, Hair Mist ที่จะเพิ่มกลิ่นหอมแนวสดใส อ่อนหวานให้กับสาวๆทั่วทั้งร่างกาย แบรนด์นี้มีทั้งหมด 4 กลิ่นให้สาวๆเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น Luca Galette (กุหลาบ) , กลิ่น Mimi Torte (ผลไม้) , กลิ่น Coco Torte (ดอกไม้อ่อนละมุน) และสุดท้ายกลิ่น Crea Galette (ดอกไม้กลิ่นหวานฉ่ำ) แอบกระซิบว่าน้ำหอมแบรนด์นี้ขวดน่ารักจริงๆ นีน่าเห็นแว๊บแรกคืออยากเป็นเจ้าของเลยค่ะ ^^
AHA by Cleansing Research
แบรนด์นี้ดังมากๆในผลิตภัณฑ์ AHA Face Wash Cleansing ที่การันตีด้วยรางวัล Cosme ในประเทศญี่ปุ่นมาแล้วค่ะ ตัวนี้ขายดีสุดๆและเหมือนเป็นโฟมล้างหน้าประจำบ้านของสาวๆญี่ปุ่นในช่วงนี้เลย ^^ คุณสมบัติเด่นของโฟมล้างหน้าสูตรเจลหลอดนี้ คือจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและเครื่องสำอางติดทนได้อย่างหมดจด (ล้างมาสคาร่าออกได้อย่างง่ายดาย) พร้อมกับส่วนผสมของกรดผลไม้ AHA, สารสกัดจากเมล็ดเกรปฟรุตและใบชาช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ ให้ผิวเรียบเนียนสุขภาพดีค่ะ เค้าบอกว่าถึงแม้ว่าจะมีส่วนผสมของกรดผลไม้ แต่อ่อนโยนมากๆ เพราะส่วนผสมสกัดจากพืช 100% และปราศจากสี แอลกอฮอล์ และมิเนอรัลออยล์ สามารถใช้ได้ทุกวันค่ะ
AQUA SAVON
แบรนด์ที่ขายครั้งแรกในเมืองไทยเช่นเดียวกันค่ะ โดยเน้นที่ผลิตภัณฑ์ให้ความหอมกับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น Body Spray, Hair Spray, หรือน้ำหอม ซึ่งกลิ่นทั้งหมดเน้นความสดชื่นเป็นธรรมชาติ ถือว่าเป็นกลิ่น unisex คือสามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิ่งและผู้ชายค่ะ ทางแบรนด์เล่าให้นีน่าฟังว่า คู่รักที่ญี่ปุ่นนิยมซื้อไว้ใช้ร่วมกัน เหมือนเป็นการใส่เสื้อคู่ หรือแหวนคู่ แต่ครั้งนี้เป็นกลิ่นคู่ ที่ไปที่ไหนๆ คนอื่นจะจำได้ว่าคู่รักคู่นี้ใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ค่ะ หวานเว่อร์ >< นีน่าชอบตรง packaging ที่มีเม็ดลูกแก้วกลมๆใสๆด้านใน น่ารักมากมายค่ะ ^^
BODY SHEET
Body Sheet แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ของร้าน Matsukiya ผลิตขึ้นเองค่ะ และถือว่าเป็น Must have item ติดกระเป๋าของสาวญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่มีเหงื่อ หรือต้องการความสดชื่นมากเป็นพิเศษ มีทั้งสูตรของผู้หญิง-ผู้ชาย โดยที่ของผู้ชายมีแยกเป็นสูตรเมนทอล แบ่งออกเป็น Facial และ Body ส่วนของผู้หญิงมีให้เลือกทั้งหมด 5 กลิ่น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นสะอาดๆแบบ soap, กลิ่นหอมหวานๆแบบ rose, หรือสูตรพิเศษด้วยแป้งเมนทอลผสมไฮยาลูรอน ให้ผิวเรียบลื่นและเย็นสดชื่น ส่วนตัวนีน่าว่าผลิตภัณฑ์นี้เหมาะมากๆในเมืองไทย แทนที่สาวๆจะพก baby wipe ในกระเป๋า ได้เวลาเปลี่ยนมาใช้ Body Sheet กันแล้วนะคะ ^^
OTHERS (แบรนด์อื่นๆ)
นอกจากแบรนด์ญี่ปุ่นที่นีน่าแชร์ให้ดูด้านบนแล้ว ยังมีแบรนด์ญี่ปุ่นอื่นๆอีกมากมายภายในร้านค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าหน้าตาน่ารัก และแปลกใหม่แบบที่เราไม่สามารถหาได้ที่อื่นในไทยมาก่อน นอกจากนี้แบรนด์อื่นๆที่ไม่ได้มาจากญี่ปุ่นก็มีให้เลือกซื้อเหมือนกันค่ะ เรียกว่าเป็นแหล่งรวมตัวผลิตภัณฑ์บิวตี้ที่ใหญ่ และเยอะสุดๆเลยค่ะ
ขนตาปลอมมากมาย โดยเฉพาะแบรนด์ที่นีน่าเลิฟอย่าง Dolly Wink ก็ขนตัวมารวมกันทุกแบบทุกรุ่นที่นี้ พร้อมกับตัวอย่างขนตาปลอมที่ให้สาวๆได้ทดลองทาบกับตาเราได้จริงๆ สะดวกมากๆเวลาจะตัดสินใจเลือกซื้อค่ะ นอกจากนี้ยังมีกาวติดขนตาปลอมแบรนด์ดังอย่าง D.U.P. ที่นีน่าเชื่อว่าสาวๆต้องเคยซื้อจากร้านหิ้วต่างๆหรือฝากเพื่อซื้อจากญี่ปุ่นมาแล้ว มาวางขายในร้าน Matsukiya เช่นเดียวกันค่ะ กรี๊ดมากก ><
แบรนด์ลิปสติ๊กอย่าง Nyla ก็มากันแบบยกแผง พร้อม tester จัดวางน่ารักๆให้เราได้ลองกันแบบจุใจ ทุกสี ทุกรุ่น ทุกแบบได้เลยค่ะ
ก่อนกลับจากร้าน นีน่าได้เลือกผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจจากร้าน Matsukiya มาทดลองใช้เองแบบเยอะแยะมากมายด้วยค่ะ และตอนนี้ก็พร้อมแล้วที่จะมาเปิดเผย Top 5 ผลิตภัณฑ์ที่นีน่าชอบ และอยากจะแนะนำสาวๆให้ลองใช้มากที่สุดจากร้านนี้ ไปดูกันเลย!!
Nina’s Top 5 Favorite Products
เห็นจากในกล่องนี้แล้ว จะรู้ว่านีน่าเลือกผลิตภัณฑ์จากร้าน Matsukiyo มาลองเยอะแยะมากมาย (นี่ขนาดเลือกมาลองเฉพาะอันที่คิดว่าเด่นๆแล้วนะคะ จริงๆในร้านมีของอีกเพียบเลย ^^) สรุปออกมาได้ 5 ผลิตภัณฑ์ที่นีน่าใช้เองแล้วชอบ คิดว่าต้องถูกใจสาวๆแน่นอน
1. Chifure Moisture Gel (ราคา 469 บาท / แบบรีฟิลราคา 409 บาท)หนึ่งในตัวที่ดังที่สุดของแบรนด์ Chifure คือตัวนี้ค่ะ มอยส์เจอไรเซอร์หรือครีมบำรุงที่เป็นเนื้อเจล มีคุณสมบัติ 6 in 1 คือเป็นทั้ง โทนเนอร์, เซรั่ม, เอสเซนส์, โลชั่นน้ำนม, ครีมมาส์ก, และ เมคอัพเบส เรียกได้ว่าใช้แค่เพียงตัวเดียว ก็ครอบคลุมการบำรุงทุกขั้นตอน เลยไปถึงขั้นตอนแรกของเมคอัพด้วยซ้ำ หรือจะใช้เป็น sleeping mask บำรุงหน้าก่อนนอนก็ได้ค่ะ คุ้มสุดๆ!
นีน่าลองกับผิวตัวเองแล้ว คือเนื้อเจลครีมบางเบามากๆ พร้อมให้ความชุ่มชื่นแบบเต็มที่ ด้วยส่วนผสมของไฮยาลูรอน ที่สำคัญที่สุดคือไม่เจือสีและน้ำหอม จึงเหมาะสำหรับผิวบอบบบางแพ้ง่ายด้วยค่ะ
ยิ่งลองทาบนผิวหน้าแล้วคือดีงาม รู้สึกเบาสบายสุดๆ นีน่าเองใช้ทั้งตอนกลางวันและกลางคืนเลยค่ะ ตอนกลางวัน เราอาจลองกันแดดตามซักหน่อยก่อนลงเมคอัพ ส่วนกลางคืนทาเดี่ยวๆ หรือเลเยอร์ให้หนาหน่อย ใช้แทน sleeping mask ได้เลย เลิฟมากๆ ราคาก็ดีงามด้วยค่ะ ^^
2. Chifure Borage Cream (ราคา 579 บาท)อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ติด Top 5 Favorite ของนีน่าและมาจากแบรนด์ Chifure เช่นเดียวกันค่ะ หลอดนี้ชื่อว่า Borage Cream หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นครีมเอนกประสงค์นั่นเอง ด้วยความที่ส่วนผสมหลักล้วนมาจากธรรมชาติและไม่มีสารเคมีสังเคราะห์ใดๆ จึงเป็นครีมบำรุงที่อ่อนโยน สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็ก (Babyแรกเกิด) จนถึงผู้ใหญ่ (วัยสูงอายุ) และสามารถใช้ได้ทุกส่วนของร่างกายเลยค่ะ
เนื้อครีมจะเข้มข้นมากๆ จึงสามารถให้ความชุ่มชื่นได้เป็นอย่างดี ถ้าเทียบโดยตรงแล้วคุณสมบัติทั่วไปจะทำหน้าที่เหมือนกับปิโตรเลียมเจลลี่ แต่เนื้อสัมผัสจะไม่เหนียวเหนอะหนเท่า ตัวนีน่าเองชอบทาตรงบริเวณที่แห้งด้านมากๆ เช่นช้อศอก หัวเข่า หรือถ้าผิวแห้งสุดๆเวลาเจออากาศหนาว ตัวนี้ก็เอาอยู่เช่นเดียวกันค่ะ
3. Mote Mascara (ราคา 998 บาท)ไอเท็มนี้จะไม่ให้ติดโผก็คงไม่ได้ รางวัล Cosme ก็ได้มาแล้ว นีน่าลองใช้เองจริงก็แล้ว คือดีเริ่ดจริงๆค่ะ มาสคาร่า จากแบรนด์โมเต้ สีชมพูแท่งนี้เป็นรุ่นที่ช่วยเพิ่มความยาว กันน้ำ ไม่แพนด้า และเป็นสูตรเนื้อฟิล์มจึงสามารถล้างออกได้ด้วยน้ำอุ่น ที่สำคัญคือมีสารบำรุงขนตา ที่จะช่วยให้ขนตาแข็งแรงขึ้น ยาวขึ้นในระยะยาวอีกด้วยค่ะ
ว่าแล้วก็มาทดลองใช้ให้สาวๆดูกันเลยดีกว่า นีน่าปัดรอบเดียวทั้งขนตาบนและล่าง จะเห็นได้ถึงความแตกต่าง (เปรียบเทียบรูปบนคือก่อนปัด และรูปล่างคือหลังปัด) ขนตายาวขึ้นมากมาย หนาขึ้นเล็กน่อย แต่ที่สำคัญคือขนตาดูเรียงเส้นสวยงามแบบธรรมชาติ ไม่ติดกันเป็นแพ แถมนีน่าลองปัดทิ้งไว้ทั้งวัน คือไม่เลอะเทอะ ไม่แพนด้าเลยค่ะ เริ่ดจริง อะไรจริง ^^
ขวดนี้หลังจากที่นีน่าได้มาลอง คือติดมากๆ เป็น hair & body mist กลิ่นแนวสะอาดสดชื่น พร้อมมีความหวานอ่อนๆปนอยู่ นีน่าชอบตรงที่เป็นกลิ่นอ่อนๆที่มีเอกลักษณ์และไม่ฉุนจนเกินไป หลายๆครั้งที่ฉีดขวดนี้แล้วมีคนทักว่าน้ำหอมกลิ่นอะไร หอมจัง >< เขิลเลย
และตามชื่อเลยค่ะ คือ hair & body mist นีน่าจะใช้ฉีดทั้งที่ผมและตัว เพื่อให้หัวจรดเท้าเราเป็นกลิ่นเดียวกัน ไม่ตีกัน สาวๆลองไปทดลองดมกลิ่นดูได้ที่ร้านนะคะ เค้ามีหลายกลิ่นให้เลือกเลย ^^
5. Body Sheet
ราคา 79 บาท (12 แผ่น) / ราคา 129 บาท (36 แผ่น)
อย่างที่บอกว่าผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับเมืองไทยมากๆจริงๆ อยากให้สาวๆพกสิ่งนี้ติดตัวแทน baby wipe เพราะเช็ดแล้วรู้สึกสะอาดสดชื่น แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆติดตัวไปอีกด้วย นีน่าเอามาลอง 2 กลิ่นคือกลิ่น Soap และ Rose นะคะ ที่จริงยังมีอีก 1 กลิ่นให้เลือก คือกลิ่น Citrus แนวเฟรช สดชื่น อยู่ในห่อสีเขียวค่ะ
ตัวห่อเล็กกระทัดรัด พกพาสะดวก ลองดึงกระดาษออก โห!!! ไซส์ใหญ่จริงจังค่ะ ส่วนตัวรู้สึกว่าขนาดใหญ่กว่า baby wipe หลายๆแบรนด์ที่นีน่าเคยใช้มาด้วยนะ แถมพอดึงออกมาแล้วยังได้กลิ่นหอมอ่อนๆแนวสะอาดสดชื่นอีกด้วย
ลองเช็ดกับตัวเรียบร้อย คือตัวแผ่นกระดาษมีความหนานุ่ม เช็ดไปกับผิวแล้วรู้สึกดีจริงๆค่ะ วันไหนอากาศร้อนๆ อบอ้าว เหงื่ออก หรือไปออกกำลังกายเหนื่อยๆ นีน่าว่าสิ่งนี้เหมาะมาก
Nina’s Conclusion
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย??!! สาวๆเห็นของที่นีน่านำมาแชร์ให้ดู พร้อมกับ 5 ชิ้นที่ถูกใจนีน่ามากที่สุดแล้ว ชักอยากแว็ปไปช้อปปิ้งที่ร้าน Matsumoto Kiyoshi กันบ้างแล้วใช่ม๊าา?
บอกตรงนี้ตอนนี้เลยค่ะ ว่าขอให้รีบไปก่อนที่คนจะเยอะสุดๆ เพราะร้านเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง พิกัดที่ตั้งอยู่ที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น G นะจ้ะ ร้านเด่นเป็นสง่ามากมาย หาเจอแน่นอน ไปช้อปกันเยอะๆน้าาา ^^